ns

การใช้ EM กับสิ่งแวดล้อม

การใช้ EM กับสิ่งแวดล้อม ขอแบ่งเทคนิคการใช้ออกเป็นเรื่องย่อยๆ ดังต่อไปนี้

1. การกำจัดขยะ

2. การกำจัดกลิ่น

3. การบำบัดน้ำเสีย

4. การกำจัดขยะเปียก

1. การกำจัดขยะ

1.1 ขยะที่กระจัดกระจายบนผิวดิน นำมากองรวมกันหรือทับถมกันอยู่  ในน้ำ ทำให้เกิดกลิ่น แมลงวัน กำจัดด้วยการใช้ EM ขยาย ผสมน้ำ 100 เท่า ฉีดพ่นให้ทั่วทุกครั้งที่นำขยะมาทิ้ง จะส่งผล ให้ขยะถูกย่อยได้เร็ว แมลงวันลดลง กลิ่นหมดไป และน้ำที่ไหลออกไปเป็นน้ำปุ๋ย

1.2 ขยะที่กองในที่ลุ่ม หรือมีหลุมฝังกลบ ใช้ EM พ่นต่อเนื่อง เมื่อมีการ นำขยะมาทิ้งใหม่ 5-7 วัน กลบดินบางๆ การกลบดินจะช่วยให้เกิดการหมักและ ย่อยสลายได้เร็วขึ้น จะยุบและถมต่อได้อีกหลายครั้ง

1.3 การนำขยะไปทำปุ๋ย ต้องหมัก ด้วย EM จึงจะไม่เป็นพิษภัย เพราะขยะ หลายชนิดมีพิษ

1.4 ขยะมีพิษ ขุดหลุมฝังอย่างเดียว ก่อนกลบควรพ่น EM ให้ทั่วแล้วกลบ จะไม่เกิดพิษต่อไปได้อีก

1.5 ขยะในน้ำ ใช้ EM ขยาย และ EM บอล ด้วย

 

2. การกำจัดกลิ่น 

กลิ่นเกิดจากขยะเน่าเสีย น้ำเสียจากโรงงานและแหล่งเลี้ยงสัตว์ หากบำบัด น้ำสะอาดแล้วด้วย EM กลิ่นจะหายไปด้วย แต่ยังจะมีกลิ่นจากมูลสัตว์ กากมัน และ อื่นๆ กำจัดได้ด้วย EM ขยายเช่นกัน ด้วยการผสมน้ำแล้วฉีดพ่นให้ทั่ว ถ้ามีน้ำ ใช้ EM บอล ช่วยด้วย

3. การบำบัดน้ำเสีย

 -EM ขยาย ใช้ฉีดพ่น 1 ลิตร ต่อน้ำ 1-5 ลูกบาศก์เมตร (1 : 10,000)

- EM บอล (ดังโหงะ) กำจัดโคลนตมใต้ผิวน้ำ และบำบัดน้ำเสียที่มีลักษณะ เคลื่อนไหว 1 ลูก ต่อน้ำ 1-5 ลูกบาศก์เมตร

การบำบัดน้ำเสียจากโรงงาน โรงแรม โรงเลี้ยงสัตว์ โรงอาหาร จะมีแหล่ง เกิดน้ำเสียชัดเจน การแก้ปัญหาน้ำเสีย ทำดังนี้

- พ่น EM ขยาย หรือใช้ EM บอล (ดังโหงะ) บำบัดน้ำเสียทั้งหมดใน บ่อบำบัดและแหล่งเก็บอื่นๆ

- ผสม EM ขยาย กับน้ำที่ไหลออกจากแหล่งกำเนิดน้ำเสียตลอดเวลา (เช่น ระบบน้ำหยด) แล้วน้ำจะไม่เน่าเสีย แต่ควรมีบ่อบำบัดด้วย

4. การกำจัดขยะเปียก 

เน้นเศษอาหารจากครัวเรือน ร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงครัว ฯลฯ หากนำ ไปทิ้ง จะเกิดการบูดเน่าเหม็นเป็นมลภาวะ ควรบำบัดก่อน แล้วนำไปใช้ประโยชน์ เศษอาหาร มี 2 ส่วน คือ เศษอาหารก่อนปรุง เป็นเศษผัก เปลือกผลไม้ ไส้ฟักแฟง เปลือกไข่ เมล็ดผลไม้ ฯลฯ และเศษอาหารหลังรับประทาน เป็นข้าว แกง กระดูก เศษผัก ฯลฯ 

การบำบัด ทำได้ 3 ลักษณะคือ 

1. ถ้ามีพื้นที่มีการปลูกต้นไม้ เช่น บริเวณริมรั้ว หรือใต้ร่มไม้ ขุดหลุม หรือขุดเป็นร่องยาว นำเศษอาหารไปใส่ แล้วรดด้วย EM (1:1:100) หรือโรยด้วย โบกาฉิ หรือรดด้วย EM หมักน้ำซาวข้าว หรือ EM ขยาย กลบดินบางๆ ไม่ช้า ก็จะย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ย 

2. เศษอาหาร หั่น สับ ให้ละเอียด ใส่ถังหมัก มีน้ำซาวข้าว น้ำแกงที่รสไม่จัดก็ใส่ด้วยได้ นำไปเป็นน้ำปุ๋ย เหมาะแก่นักเกษตรเป็นอย่างยิ่ง 

3. เศษอาหาร สับหรือหั่นให้ละเอียด ผสมโบกาฉิในอัตราส่วน

เศษอาหาร 1 กิโลกรัม ต่อโบกาฉิ 1 กำมือ + EM 10 ซีซี หรือ 

EM 20 ซีซี + กากน้ำตาล 20 ซีซี

- ใส่ถังหมักที่ทำขึ้นเอง หรือถังสำเร็จ ครั้งเดียวเต็มถัง หรือหลายครั้งก็ได้

- เมื่อเต็ม หมักไว้ 7 วัน

วิธีใช้

หมักครบ 7 วัน แยกน้ำใส่ภาชนะไว้ใช้ กากนำไปเป็นปุ๋ยโดยวิธีฝัง   

น้ำหมักนำไปใช้ดังนี้

1. ผสมน้ำ 500 เท่า เป็นปุ๋ยรดพืชผัก

2. ผสมน้ำ 100 เท่า เช็ดถูพื้นห้องน้ำ กระเบื้องโมเสด

3. บำบัดน้ำเสียด้วยการเทลงโถส้วม แหล่งน้ำ สาธารณะ

หมายเหตุ เศษอาหารที่หมักแบบที่ 2 และ 3 แล้ว นำไปป่นอีกครั้ง นำไปผสมมูลสัตว์หรือกากปาล์ม หรือกากอ้อย หรือใบไม้ป่น ให้มีความชื้น พอเหมาะ ใส่ถุงหมักเป็นปุ๋ยโบกาฉิที่มีคุณภาพ หรือนำขยะเปียกที่หมักแล้ว ผสมขยะแห้งที่ป่นแล้วก็ได้ปุ๋ยที่มีคุณภาพเช่นกัน 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Visitors: 116,927
ns